กทม.รับมอบอาคารวัดหงส์รัตนารามฯ เตรียมใช้เป็นโมเดล "Temple Isolation" ศูนย์พักคอยฯรองรับพระสงฆ์และสามเณร

 

          (26 ส.ค. 64) เวลา 13.00 น. : นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. เป็นผู้แทนกรุงเทพมหานคร รับมอบอาคารโรงเรียนพระปริยัติธรรมพระปิ่นเกล้าและอาคารโรงเรียนวัดหงส์รัตนาราม เพื่อจัดตั้งเป็น ศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร เขตบางกอกใหญ่ จาก พระเทพปริยัติมุนี (มีชัย วีรปัญโญ) เจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร โดยมี คณะผู้บริหารสำนักการแพทย์ คณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตบางกอกใหญ่ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับมอบ ณ อาคารโรงเรียนพระปริยัติธรรมพระปิ่นเกล้า วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร เขตบางกอกใหญ่

            ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครได้จัดตั้งศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI) เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีผลตรวจรับรองว่าติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ 50 เขตซึ่งไม่สามารถแยกกักที่บ้านหรือ Home Isolation ได้ สำหรับศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ในพื้นที่เขตบางกอกใหญ่ จัดตั้งขึ้นเพื่อรองรับพระสงฆ์ สามเณรและประชาชนในพื้นที่ที่เป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว(มีอาการไม่มากหรือไม่แสดงอาการ) ซึ่งประเมินแล้วว่าไม่สามารถกักตัวที่วัดนั้นๆหรือที่บ้านได้ ให้มาพักในศูนย์แห่งนี้ เพื่อรอการนำส่งต่อไปรักษา ณ สถานพยาบาลที่เหมาะสมกรณีที่มีอาการรุนแรงขึ้น โดยศูนย์ฯดังกล่าวใช้พื้นที่อาคารโรงเรียนพระปริยัติธรรมพระปิ่นเกล้า ชั้น 2-3 เป็นพื้นที่รองรับสำหรับพระสงฆ์ จำนวน 71 เตียง และใช้พื้นที่โรงเรียนวัดหงส์รัตนาราม ชั้น 2 เพื่อรองรับประชาชน จำนวน 48 เตียง แบ่งเป็นชาย 24 เตียง และ หญิง 24 เตียง ซึ่งการเตรียมการด้านอาคารสถานที่ได้รับความอนุเคราะห์จากกรมสนับสนุนบริการ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้เกิดความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ส่วนด้านอื่น ๆ ได้รับความอนุเคราะห์ร่วมมือจากหลายภาคส่วน อาทิ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานเขตบางกอกใหญ่ สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สปสช. กองทัพบก กองทัพเรือ ประธานชุมชนวัดหงส์รัตนาราม และประชาชน ในส่วนของคณะแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ผู้รับผิดชอบนั้น ได้รับความร่วมมือจากผู้บัญชาการทหารเรือ เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ มอบหมายให้โรงพยาบาลพระปิ่นเกล้า รับผิดชอบเป็นผู้บริหารจัดการการดูแลรักษาผู้ป่วยภายในศูนย์ พร้อมทั้งมอบหมายให้กรมสารวัตรทหารเรือ ร่วมดูและรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีทีมแพทย์พยาบาลที่มาสนับสนุนภารกิจในส่วนอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิ โรงพยาบาลศิริราช แพทยสภา สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และทีมแพทย์จากโรงพยาบาลสงฆ์และโรงพยาบาลบุษราคัม ทั้งนี้ ศูนย์พักคอยฯ แห่งนี้ยังได้สร้างห้องความดันลบเพื่อควบคุมปริมาณการแพร่กระจายของโรคไม่ให้อากาศภายในห้องที่มีเชื้อโควิด-19 ปนเปื้อนออกสู่ภายนอกห้องอีกด้วย

          ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ เปิดเผยต่อว่า ขอกราบขอบคุณ พระเทพปริยัติมุนี (มีชัย วีรปัญโญ) เจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ที่มีจิตเมตตาและริเริ่มที่จะใช้สถานที่ของวัดในการดูแลผู้ติดเชื้อ ซึ่งตรงกับหลักการของกทม.ที่อยากส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมดูแลผู้ป่วยในชุมชนของตัวเองภายใต้การดูแลของหน่วยบริการที่มาจับคู่ด้วย ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีการเปิดศูนย์พักคอยหรือ Community isolation หลายแห่ง เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ติดเชื้อในการแยกกักตัวภายใต้การดูแลของแพทย์และทำให้การควบคุมป้องกันโรคมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น “วัดหงส์รัตนารามราชวรวิหารนับว่าเป็นต้นแบบของ “Temple Isolation หรือ “Community Isolation” ซึ่งจะขยายผลให้เป็นต้นแบบหรือโมเดลวัดเพื่อเป็นศูนย์พักคอยสำหรับพระสงฆ์หรือสามเณรต่อไป

 

--------- (สกณธ์...สปส.รายงาน) ---------

แหล่งที่มาข้อมูล : https://www.prbangkok.com/th/news/detail/4/4137

 

คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่

ความคิดเห็น

0 รายการ
เรียงลำดับตาม